เป็นอีกครั้งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกมอบหมายให้ลงสนามเปิดศึกพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลใหม่ ด้วยการเปิดโรงละครแห่งความฝันต้อนรับฟูแล่ม ซึ่งถือเป็นทีมแรกที่มีโอกาสสัมผัสกับอุโมงค์ลงสู่สนามที่เพิ่งได้รับการเนรมิตให้ไฉไลกว่าเดิม
ถึงจะเป็นแค่แมตช์แรก แต่บ้านผลบอลนัดนี้มีความสำคัญสำหรับ เอริค เทน ฮาก พอสมควร เพราะแม้เขาจะเพิ่งผ่านการประเมินจากผู้บริหารสโมสรชุดใหม่จนได้สานงานต่อพ่วงด้วยสัญญาจ้างที่เพิ่มขึ้นอีกปี แต่หากผลงานยังลุ่มๆ ดอนๆ แบบปีก่อนก็คงอยู่ไม่ครบสัญญาเป็นแน่ แถมนี่ยังเป็นฤดูกาลที่ 3 ของเขาแล้ว ไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับความล้มเหลวใดๆ
เกมนี้กุนซือชาวดัตช์ตัดสินใจส่งนักเตะใหม่อย่าง นูสแซร์ มาซราอุย ประจำการตำแหน่งแบ็กขวาทันที แต่ยังเลือกเก็บ มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ ไว้ข้างสนาม แล้วส่ง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ผนึกกำลังกับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ในขณะที่ โจชัว เซิร์กเซ่ ก็เป็นนักเตะใหม่อีกคนที่ต้องเริ่มต้นบนม้านั่งสำรอง
เทน ฮาก น่าจะติดใจจากเกมคอมมูนิตี้ ชิลด์ จึงเลือกใช้ บรูโน่ เฟอร์นานเดซ ในตำแหน่งศูนย์หน้าอีกครั้ง ซึ่งกัปตันจอมอึดก็แสดงให้เห็นว่าเขาพร้อมรับทุกบทบาทในแนวรุกจริงๆ แถมเกือบทำประตูขึ้นนำจากการหลุดเดี่ยวไปดวลตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตูถึง 2 ครั้ง 2 ครา ก่อนจะยิงไปติดเซฟทั้งหมด
ทางฝั่งทีมเยือนนั้นแม้จะถูกมองว่าเป็นรองแต่กลับเป็นฝ่ายครองเกมบุกสร้างความหนักใจให้เจ้าบ้านตั้งแต่ต้นเกม โดยเฉพาะเกมรุกทางกราบขวาของอดาม่า ตราโอเร่ ที่ใช้ความแข็งแกร่งและคล่องตัวโจมตีแนวรับปีศาจแดง รวมไปถึงเคนนี่ เตเต้ แบ็กขวาที่สบโอกาสโยกตัดเข้ากลางแล้วปั่นโค้งพุ่งเสียบสามเหลี่ยม แต่เป็น อังเดร โอนาน่า ที่โชว์ซูเปอร์เซฟบินปัดไว้ได้สุดปลายมือ
ช่วงครึ่งแรกนั้น คาเซมิโร่ เป็นคนที่โดดเด่นที่สุดของเจ้าบ้าน ไม่ใช่แค่คุมพื้นที่แดนกลางและคอยเก็บกวาดหน้าแผงหลังเท่านั้น มิดฟิลด์แซมบ้ายังมีส่วนร่วมในเกมรุกทั้งลำเลียงบอลขึ้นหน้า จ่ายทะลุช่องสวยๆ หลายต่อหลายครั้ง รวมไปถึงการจบสกอร์เองทั้งจังหวะโหม่งและส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ คาดว่าการที่ยูไนเต็ดมีข่าวเชื่อมโยงกับนักเตะในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับมากหน้าหลายตาคงจะมีผลกับการรีดฟอร์มไม่มากก็น้อย
ทั้งสองทีมผลัดกันสร้างโอกาสตลอดทั้งเกม แม้เจ้าบ้านจะมีโอกาสยิงมากกว่าแต่ก็เกือบต้องน้ำตาตกจากจังหวะโดนโต้กลับเร็วหลายครั้ง ดีที่กองหลังยังช่วยกันเคลียร์ในจังหวะสุดท้ายได้ทัน โดยเฉพาะช็อตของแม็คไกวร์ที่ยืนห้อยเป็นตัวสุดท้ายแล้วยื่นขาสกัดจังหวะจ่ายของนักเตะทีมเจ้าสัวที่หลุดมากันถึง 2 คนไว้ได้ทัน
แต่สุดท้ายแฟนเจ้าบ้านก็มาได้เฮลั่นช่วงท้ายเกม จากผลงานของ 2 ตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนามพร้อมกันเมื่อเกมดำเนินไปครบชั่วโมง การ์นาโช่เปิดบอลเข้ากลางให้เซิร์กเซ่จิ้มหัวเกือกส่งบอลตุงตาข่าย เจ้าบ้านออกนำก่อนหมดเวลาไม่กี่นาที แถมยังเกือบบวกสกอร์เพิ่มได้ถ้าการ์นาโช่ไม่ยิงโล่งๆ หลุดกรอบไปในช่วงเวลาทดเจ็บอย่างเหลือเชื่อ
จบเกมฝ่ายเจ้าบ้านจึงเฉือนเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 เป็นอีกนัดที่พลพรรคแฟนผีเกือบหลับแต่กลับมาได้อย่างเฉียดฉิว แต่ถึงอย่างนั้น 3 แต้มนี้ก็เพียงพอให้ยูไนเต็ดขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูงได้ก่อนใคร
ประตูของเซิร์กเซ่ทำให้เขาสามารถยิงประเดิมประตูได้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงสนามให้กับ 2 ทีมยักษ์ใหญ่ของวงการลูกหนัง ทั้งบาเยิร์น มิวนิค และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นอกจากนั้นประตูโทนที่เกิดขึ้นในเกมนี้ ยังส่งผลให้ฟูแล่มกลายเป็นทางผ่านของศูนย์หน้าปีศาจเชื้อสายดัตช์โดยสมบูรณ์ เมื่อเซิร์กเซ่กลายเป็นมือปืนจากแดนกังหันรายที่ 3 เข้าให้แล้วที่ยิงทีมเจ้าสัวในนัดเปิดตัวศึกพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ต่อจากรุด ฟาน นิสเตลรอย และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นต่อหน้าแฟนผีในโรงละครแห่งความฝันเสียด้วย
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC